เดินทางมาถึงเกมท้ายที่สุดของฤดู 2019/20 ความมันส์ยังมีให้ลุ้นเป็นตั๋วอีก 2 ใบสำหรับศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมทั้งกลุ่มตกชั้นที่ยังต้องหาอีก 2 กลุ่มหล่นลงไปเล่นแชมเปี้ยนชิพ
สำหรับประเด็นสำคัญก่อนเกมจะมีอะไรน่าดึงดูดบ้าง พวกเราคัดเลือกมาให้ดูกัน 6 แมตช์ แบบเต็มๆเน้นๆ
อาร์เซน่อล – วัตฟอร์ด
ในเรื่องที่ทีมลำดับ 9 อย่าง เบิร์นลี่ย์ แพ้ ไบรท์ตัน แล้ว อาร์เซน่อล เก็บชัยได้เหนือ วัตฟอร์ด ก็จะก่อให้ “เดอะ กันเนอร์ส” แซงขึ้นไปจบอันดับ 9 ในทันที

แต่ วัตฟอร์ด ที่อยู่ลำดับ 18 ซึ่งเป็นหลักที่ตกชั้น ก็จำต้องทำทุกวิธีการเพื่อเก็บชัยหรือจำต้องทำอย่างไรก็ได้ให้ตนเองส่งมีผลการแข่งขันที่ดีมากยิ่งกว่า แอสตัน วิลล่า ที่ช่วงนี้ทั้งสองมีแต้มเสมอกัน แม้กระนั้นผลต่างประตูของ “แตนก่อกวน” ด้อยกว่า
อาร์เซน่อล ไม่แพ้ผู้ใดกันเกมลีกในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มาแล้ว 8 เกมต่อเนื่องกัน (ชนะ 6 เสมอ 2) โดยสอยตาข่ายคู่ปรปักษ์ได้ถึง 18 ลูก แล้วก็เสียไปเพียงแค่ 5 ประตูแค่นั้น
ส่วนการพบกับ วัตฟอร์ด ในเกมลีกที่บ้านตนเอง 6 นัดหลัง “ไอ้ปืนใหญ่” คว้าชัยได้ 5 นัด (แพ้ 1) ซึ่งทุกนัดที่คว้าชัยเป็นการเก็บคลีนชีตได้ทั้งหมด
วัตฟอร์ด เสียประตูอย่างต่ำ 1 ลูกตลอด 9 เกมในลีกหลังสุด และตลอดการพบกับ อาร์เซน่อล 13 ในเกมลีก พวกเขาเป็นฝ่ายขึ้นนำเพียงแต่ครั้งเดียวแค่นั้น โดยเป็นผลมาจากประตูของ ยูเนส กาบูล เมื่อมกราคม ปี 2017 เกมที่ วัตฟอร์ด บุกไปชนะ 2-1
เชลซี – วูล์ฟส์
เชลซี ปรารถนาเพียงแค่แต้มเดียวแค่นั้นเพื่อคว้าสิทธิ์ไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า ส่วน วูล์ฟส์ หมายมั่นปั้นมือที่จะยึดท็อป 6 รวมทั้งไปเล่น ยูโรปา ลีก เป็นปีที่ 2 ต่อเนื่องกัน
สำหรับการพบกับ วูล์ฟส์ ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซี ไม่แพ้เลยโดยแบ่งเป็นเก็บชัยได้ 4 และก็เสมออีก 1
แทมมี่ อับราฮัม ทำคะแนนได้ตลอด 3 เกมที่ เชลซี พบกับ วูล์ฟส์ โดยซัดได้ถึง 6 ลูก รวมทั้ง แฮตทริกใส่ในเกมครั้งแรกที่ “สิงห์บลูส์” เอาชนะไป 5-2
ตั้งแต่แมื่อขึ้นชั้นกลับมาเมื่อปี 2018 วูล์ฟส์ ยิงใส่ เชลซี ได้ 5 จาก 3 เกมที่เจอะกันบนลีกสูงสุด ซึ่งมันต่างกันทั้งหมดกับที่ผ่านมา 8 นัดหมายที่พวกเขายิงได้เพียงแค่ลูกเดียวเพียงแค่นั้นสำหรับการพบกับ “สิงห์บลูส์”
ราอูล ฮิเมเนซ ยิงได้ 17 ประตูในช่วงฤดูกาลนี้ ซึ่งประตูพวกนั้นมีค่าทำให้ วูล์ฟส์ เก็บแต้มเข้ากระเป๋าถึง 19 คะแนน โดยมีถึง 8 เกมที่เขาเป็นผู้ซัดประตูชัยให้กับกลุ่ม
คริสตัล พาเลซ – สเปอร์ส
คริสตัล พาเลซ เล่นแบบไม่มีลุ้นอะไรเลยหลังแพ้รวดมา 7 เกม ด้าน สเปอร์ส ยังคงมีลุ้นแซง วูล์ฟส์ ขึ้นไปรั้งลำดับ 6 เพื่อพื้นที่ ยูโรปา ลีก
สำหรับการเล่นเกมนัดท้ายที่สุดของฤดูที่บ้านตนเอง พาเลซ คว้าแชมป์ได้ตลอด 4 เกมหลังสุด(รวมนัดเพลย์ออฟเลื่อนชั้น)
พาเลซ ของ รอย ฮ็อดจ์สัน กำลังจะมีจังหวะที่จะเป็นทีมที่ 8 ในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก ที่ตลอดทั้งฤดูไม่มีเกมไหนเลยที่ทำได้มากยิ่งกว่า 2 ประตู รวมทั้งหากนัดท้ายสุดพวกเขายังยิงได้ไม่เกิน 2 ประตูอีก พวกเขาก็จะเป็นกลุ่มแรกที่มีสถิติอย่างนั้นแม้กระนั้นรอดจากการตกชั้น
สเปอร์ส เอาชนะ พาเลซ ได้ตลอด 9 เกมหลังสุดและไม่เสียประตูถึง 7 เกมร่วมกัน
เลสเตอร์ – แมนยู
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปรารถนาเพียงแค่ 1 คะแนนในเกมนี้เพื่อคว้าตั๋วไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า ช่วงเวลาที่ เลสเตอร์ มองหาความมีชัยเหนือ “ปีศาจแดง” ในบ้านเกมแรกนับจากกันยายน ปี 2014 เพื่อโอกาสได้ไปเล่นบอลถ้วยใหญ่ยุโรป

เลสเตอร์ เอาชนะ แมนยู ได้เพียงแค่ 1 นัดตลอดการเล่นในบ้านตนเองบนเวทีพรีเมียร์ลีก(เสมอ4 แพ้8)
เจมี่ วาร์ดี้ ยิงให้ เลสเตอร์ ไป 23 ประตูในช่วงฤดูกาลนี้ โดยขอเพียงแค่อีกประตูเดียวก็จะทำสถิติดีเยี่ยมที่สุดเมื่อเทียบกับฤดู 2015/16
แมนฯ ยูไนเต็ด ได้โอกาสสูงอย่างยิ่งที่จะจบท็อปโฟร์ เมื่อดูจากสถิติที่พวกเขาไม่แพ้ “เดอะ ฟ๊อกซ์” เลยตลอด 10 หลังสุดที่พบกัน (ชนะ 7 เสมอ 3)
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ตระเตรียมเป็นผู้เล่นตำแหน่งเอาท์ฟิลด์คนแรกของ “ปีศาจแดง” ที่ลงเล่นเป็นตัวจริงทุกเกมในศึกพรีเมียร์ลีก ต่อจาก แกรี่ พัลลิสเตอร์ เมื่อฤดูกาล 1994/95
แมนฯ ซิตี้ – นอริช
แมนฯ ซิตี้ เล่นในบ้านชนะ นอริช ได้ 3 จาก 4 เกมข้างหลัง(แพ้ 1) โดยสอยตาข่ายไป 16 ลูก
ถ้า ราฮีม สเตอร์ลิง ทำคะแนนได้ จะก่อให้เขาเป็นผู้เล่นอังกฤษคนแรกของ ซิตี้ ที่ทำแต้มบนเวที พรีเมียร์ลีก ได้ถึง 20 ลูก
นอริช แพ้ทุกครั้งที่ตนเองกลายเป็นทีมตามหลัง (26 เกม) ซึ่งพวกเขาจะเป็นกลุ่มแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ไม่สามารถที่จะเอาแต้มคืนมาได้เลยยามที่โดนยิงนำไปก่อน
ภายหลังที่เอาชนะได้ในเกมแรกที่พบกันเมื่อก.ย. นอริช ก็หวังที่จะเก็บชัยเหนือ ซิตี้ แบบเหย้า-เยือนให้ได้เป็นครั้งแรกนับจากฤดูกาล 1964/65
นิวคาสเซิล – ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล วางเป้าเก็บให้ได้ถึง 99 คะแนน ส่วน นิวคาสเซิล ฟอร์มไม่สู้ดี แพ้มาแล้ว 5 เกมต่อเนื่องกัน
นิวคาสเซิล เป็นกลุ่มที่เล่นเกมท้ายที่สุดได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อตลอด 5 เกมหลัง เอาชนะได้ทั้งหมด โดยส่งผลต่างประตูถึง 17-1 อย่างไรก็แล้วแต่คราวสุดท้ายที่พวกเขาแพ้วันปิดฤดูก็คือแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล 1-2 เมื่อฤดูกาล 2013/14
จอนโจ้ เชลวี่ย์ เป็นผู้เล่นสาลิกาดงที่ทำประตูมากสุดในลีกฤดูนี้ที่ 6 ประตู ซึ่งในจุดนี้นับเป็นตัวเลขน้อยที่สุดตั้งแต่แมื่อที่ คาร์ล คอร์ต และ โนลแบร์โต้ โซลาโน่ ทำไว้เมื่อฤดู 2000/01
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีส่วนร่วมกับประตู 5 ครั้งสำหรับการพบกับ นิวคาสเซิล 4 นัด (4 ประตู 1 แอสซิสต์) ซึ่งแต่ละนัดหมาย ศูนย์หน้าอียิปต์ จะทำคะแนนได้ตลอด
